เราควรติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบไหนดี

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า เครื่องชาร์จที่เราเอามาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามบ้านนั้น เป็นเครื่องชาร์จ AC ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าเข้าไผที่แบตเตอรี่โดยตรง เป็นเพียงการนำไฟฟ้าเข้าไปผ่าน On Board Charger (OBC) เท่านั้น และตัว OBC จะเป็นผู้แปลงไฟ AC ไปเป็น DC เพื่อชาร์จแบตเตอรี่อีกครั้งนึง

ดังนั้น ตัวเครื่องชาร์จ AC อาจจะไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันอะไรที่เลิศหรูนัก สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเพียงการชาร์จแบตเตอรี่รถให้เต็ม เพื่อขับขี่ในชีวิตประจำวัน ยกเว้นผู้ที่ต้องการความเท่ หรือ ความแตกต่าง ที่ยอมจ่ายเพื่อฟังก์ชันต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การทำ Load Balancing เพื่อเอาไฟส่วนที่เหลือจากระบบ Solarcell มาชาร์จรถโดยเฉพาะ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ อาจจะใช้เวลาหลายปีในการที่จะคืนทุน เมื่อเทียบกับการชาร์จไฟในช่วงเวลา Off Peak

หรือแม้กระทั่ง ฟังก์ชันที่บอกว่าเป็น Smart Charger เช่น ตั้งเวลาเปิด/ปิดเครื่อง ปรับลดกระแส หรือแจ้งเตือนที่ข้อความใน Application เมื่อแบตเตอรี่เต็ม ฟังก์ชันเหล่านี้ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป อาาจจะไม่ได้จำเป็นเลย แต่สำหรับคนที่ชอบความทันสมัย ก็จะเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมา

ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงในกรณีผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการความคุ้มค่าสำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยจะขออธิบายดังนี้ครับ

ตัวรถยนต์ไฟฟ้า กกับเครื่องชาร์จนั้น จะมีการสื่อสารข้อมูลกันตลอดเวลาทั้งในเวลาก่อนชาร์จ ขณะชาร์จ และเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวว่า แบตเต็มแล้ว เครื่องจะชาร์จไฟต่อจนแบตเตอรี่เสื่อม หรือแบตเตอรี่จะระเบิด

และอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ รถยนต์แต่ละรุ่นนั้น จะมี OBC ที่แตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมของขนาดความจุแบตเตอรี่ โดยมากแล้ว รถที่แบตเตอรี่ขนาด 30-60 kWh จะมี OBC อยู่ที่ 6.6 - 7 kW ทำให้สามารถรับไฟเพื่อไปชาร์จแบตเตอรี่ด้วยระบบไฟบ้าน 1 เฟสได้อย่างเพียงพอ แม้ว่าเราจะมีระบบไฟฟ้า 3 เฟส และติดเครื่องชาร์จ AC ที่มีกำลังไฟมากกว่านั้น เช่น 22 kW ก็จะสามารถชาร์จรถเราได้แค่ 7 kW ตาม OBC

ยิ่งไปกว่านั้น หากเราติดเครื่องชาร์จ 11 kW ที่ไฟบ้าน 3 เฟส จะทำให้รถเราที่รับได้ 7 kW รับไฟได้เพียง 3.5 kW เท่านั้น สาเหตุเกิดจาก เครื่องชาร์จขนาด 11 kW นั้น จะจ่ายไฟที่ 16 แอมป์ 3 เฟส แต่รถที่ OBC จะรับไฟที่ 1 เฟส ทำให้ไฟเข้า OBC เพียง 3.5 kW แต่ถ้ารถเรารับได้ที่ 11 kW รถคันนั้น จึงจะรับกำลังไฟได้เต็มที่ 11 kW นั่นเอง

แล้วแบบนี้ ถ้าเราอยากติดเครื่องที่รับไฟ 3 เฟส ให้ชาร์จรถที่รับไฟได้ 1 เฟส เราควรติดเครื่องขนาดเท่าไรดี คำตอบก็คือ ติดเครื่องขนาด 22 kW นั่นเองครับ

สาเหตุก็เพราะว่า เครื่องขนาด 22 kW นั้น จะจ่ายกระแสไฟออกมาที่ 32 แอมป์ต่อเฟส ทั้ง 3 เฟส ทำให้รถที่รับได้ 1 เฟสนั้น รับได้เต็มที่ 7 kW ตามสเปคที่ควรจะเป็น และที่สำคัญ ราคาของเครื่อง 11 kW กับ 22 kW ไม่ได้ต่างกันมาก ดังนั้น ถ้าใครที่มีรถที่รับไฟได้ 7 kW และ 11 kW ประจำการอยู่ที่บ้านแล้ว และไฟบ้านเป็นไฟ 3 เฟสอยู่แล้ว จึงแนะนำให้ติดตั้งเครื่องชาร์จขนาด 22 kW เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งานนั่นเองครับ

หากเพื่อนๆท่านไหนที่สนใจอยากติดตั้งระบบ EV Charger ทั้งแบบ Home Use หรือ Public Use สามารถติดต่อทีมงาน บริษัท กัปตันดีไอวาย ได้เลยครับ ยินดีให้บริการครับ